1. เพื่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ อำนาจของผู้กดขี่ไม่มีใครสามารถยับยั้งได้ หญิงสาวถูกข่มขืน เด็กๆ ถูกขับไล่ออกจาก บ้าน พ่อแม่ถูกสังหาร การศึกษามีจำกัด ผู้คนที่อยู่ท่ามกลางความหวาดกลัวกลับเป็นคนผิด การจับคนตามอำเภอใจโดยไร้เหตุผลและการบังคับให้โยกย้ายถิ่นฐานเป็นเครื่องมืออีกรูปแบบหนึ่งของรัฐบาลเผด็จการ คุณค่าของความเป็นมนุษย์นั้นอยู่เหนือขอบเขตของการเมือง ศาสนา เศรษฐกิจ และสังคมใด ๆ และด้วยเหตุนี้ เราจึงจำเป็นต้องยืนอยู่เคียงข้างประชาชนชาวพม่า
2. เพื่อให้เกิดการปฏิรูปประชาธิปไตย ครั้งหนึ่งประเทศพม่าเคยมีรัฐบาลที่ได้รับการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยแต่ถูกยึดอำนาจไปโดยรัฐบาลเผด็จการทหาร
3. เพื่อปลดปล่อยนักโทษการเมือง นางอองซาน ซูจี
เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพที่ยังคงถูกคุมขังอยู่ในบ้านพักเป็นหนึ่งในนักโทษการเมืองจำนวนหลายพันคนในพม่า
4. เพื่อสิทธิศักดิ์ศรีของชนเผ่าและสันติสุขในอนาคต กว่า 40 เปอร์เซ็นต์ของประชากรในประเทศพม่าเป็นชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์ต่างๆ ซึ่งควรจะได้รับการปฏิบัติที่เป็นธรรมทั้งในปัจจุบันและอนาคต ซึ่งหากไม่มีเขาเหล่านั้นแล้วก็คงไม่มีการแก้ปัญหาที่เที่ยงธรรมและยั่งยืนเพื่อความสงบสุขและประชาธิปไตยในพม่า มาตรการทำลายล้างชนกลุ่มน้อยของพม่าก่อให้เกิดผู้พลัดถิ่นภายใน มากกว่า 1 ล้านคน ผู้ลี้ภัยมากกว่า 1 ล้านคน และการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เลวร้ายวิธีต่างๆ ได้แก่ การวางกับระเบิดจำนวนมากในหลายพื้นที่โดยมีเป้าหมายคือประชาชน ชนกลุ่มน้อย จำนวนมากได้เข้าร่วมเป็นชาติพันธมิตรเพื่ออิสรภาพในสงครามโลกครั้งที่ 2 จึงไม่ควรที่จะถูกลืม
5. เพื่อสุขภาพของสาธารณชน ขณะนี้ โรคเอดส์ได้แพร่ระบาดอย่างมากในประเทศพม่า ในส่วนของสุขภาพทั่วไป ประเทศพม่าเป็นหนึ่งในประเทศที่ประชากรมีสุขภาพย่ำแย่ที่สุดในโลก เด็กประมาณ 1 ใน 10 ในพม่าเสียชีวิตก่อนจะได้ฉลองวันเกิดปีที่ 5 ของพวกเขา ซึ่งในกลุ่มของประชาชนที่ถูกบังคับย้ายถิ่นฐานโดยรัฐบาลทหารพม่า มีอัตราการเสียชีวิตของเด็กสูงกว่าปกติเป็น 2 เท่าตัว
6. เพื่อยุติการก่อกวนทางศาสนา ในประเทศพม่ามีการก่อกวนทางศาสนาอย่างแพร่หลายซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน ขั้นพื้นฐานในการนับถือศาสนา
7. เพื่อยุติการบังคับใช้แรงงานและการใช้มนุษย์เป็นเครื่องมือในการกู้ระเบิด ในแต่ละปี รัฐบาลเผด็จการบังคับประชาชนจำนวนหลายพันคนให้ทำงานในโครงการของรัฐ บังคับประชาชนให้ขนอาวุธยุทโธปกรณ์ให้กองทัพและใช้เป็นโล่มนุษย์ในการเก็บกู้ระเบิดในช่วงสงคราม
8.เพื่อการปกป้องสิ่งแวดล้อม การทำลายโค่นล้มป่าที่เต็มไปด้วยไม้สักและไม้เนื้อแข็งที่เหลืออยู่เพียงไม่กี่แห่งในโลกเป็นบริเวณกว้างโดยไม่มีการตรวจสอบ สารพิษที่เกิดจากการทำ เหมืองแร่ รวมไปถึงการสร้างเขื่อนที่ปราศจากการวางแผนที่ดี และการเพิ่มจำนวนของเขื่อน สิ่งเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งที่กำลังทำลายประเทศทั้งในขณะนี้และคนรุ่นต่อไปในอนาคต การทำลาย สิ่งแวดล้อมอย่างมหาศาลไม่เพียงก่อให้เกิดภัยอันตรายต่อประเทศ พม่าเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อประเทศเพื่อนบ้านด้วยเช่นกัน
9. เพื่อควบคุมยาเสพติด พม่าเป็นหนึ่งในประเทศผู้ผลิตยาบ้ารายใหญ่ของโลก ซึ่งผลิตมากเป็นอันดับ 1 ของเอเชียตะวันออก เฉียงใต้ และเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากอัฟกานิสถาน
10.เพื่อความมั่นคงในภูมิภาค ประเทศพม่าสร้างกองทัพของตนขึ้นมาโดยได้รับการช่วยเหลือจากเผด็จการในพื้นที่อื่น และความสนใจในโครงการพลังงานนิวเคลียร์ของพม่าเป็นภัยคุกคาม ต่อความมั่นคงในภูมิภาค ประกอบกับผู้นำที่ไร้ซึ่งศีลธรรมและปราศจากความรับผิดชอบนับว่าเป็นภัยร้ายแรงต่อประชาคมโลก
พวกเราชุมชนโลกสามารถทำงานเพื่อช่วยเหลือประชาชน ในประเทศพม่าเพื่อนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นได้ เสรีภาพทุกแห่งหนเป็นสิ่งที่ดีสำหรับทุกคน พวกเราทุกๆ ชาติควรจะลุกขึ้น สู้เพื่อชนชาติอื่น แม้ว่าเราจะไม่ได้รับประโยชน์ต่อเราในทันทีทันใด พวกเราทุกคนควรมีชีวิตอยู่เพื่อความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นของสังคมโลก สิ่งเรานี้จะนำความกล้าหาญและความไม่เห็นแก่ตัวมาให้แก่เราในที่สุด
โดย ทีมบรรเทาทุกข์ Free Burma Ranger
หมายเหตุ
แปลจากจดหมายอิเลคทรอนิกซึ่งทีมบรรเทาทุกข์ Free Burma Ranger (FBR) จัดส่งทางสัญญาณดาวเทียมระหว่างการช่วยเหลือผู้พลัดถิ่นภายในที่รัฐกะเหรี่ยง ประเทศพม่าเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2550
ทีมบรรเทาทุกข์ หรือ Free Burma Ranger's (FBR) เป็นทีมช่วยเหลือผู้พลัดถิ่นภายในประเทศพม่า โดยการนำยารักษาโรค อุปกรณ์การศึกษา และคัมภีร์ไบเบิ้ลเข้าไปช่วยเยียวยาผลกระทบทางจิตใจที่เกิดขึ้นจากภัยสงครามที่เกิดขึ้นในประเทศพม่า ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.freeburmarangers.org