ตามไปดูหนังพม่า

ข้อมูลจากเวบไซต์ ชื่อ http://pachome1.pacific.net.sg/~tuang ซึ่งจัดทำ เมื่อปี 1998 ระบุว่าในประเทศพม่า แต่ละปีมีการผลิตภาพยนตร์ประมาณ 20 - 40 เรื่อง โดยวงการบันเทิงพม่ามีการมอบรางวัลสำหรับนักแสดงดีเด่น ชื่อว่า รางวัล “ชวย ซิน โย่ง” หรือแปลตรงตัว “ตุ๊กตาทอง” เช่นเดียวกับการมอบรางวัลออสก้า ของวงการภาพยนต์ฮอลลีวูดหรือรางวัลตุ๊กตาทองของไทย


ในปี 2002 ที่ผ่านมา นักแสดงหญิงชาวพม่าชื่อ Htet Htet Moe Oo คว้า รางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากฝีมือการแสดงสองบทบาท ในเรื่องเดียวคือ แสดงเป็นทั้งแม่และลูกในภาพยนตร์เรื่องเดียวกัน นักวิจารณ์ภาพยนต์ชาวพม่า จากเว็บไซต์วิเคราะห์ว่า นับตั้งแต่มีการมอบรางวัลช่วย ซิน โย่ง วงการภาพยนต์ พม่าก็เริ่มคึกคักมากขึ้น โดยมีหนุ่มสาวรุ่นใหม่สนใจจะเข้าสู่วงการบันเทิงมากขึ้น

ผู้ติดตามวงการบันเทิงของพม่าท่านหนึ่งวิจารณ์รูปร่างของ นักแสดงว่า ส่วนใหญ่ผู้ได้รับการคัดเลือกเป็นดารา โดยเฉพาะ ดารานำหญิงมักเจ้าเนื้อ ผิดกับวงการบันเทิงไทยซึ่งเน้นผอม เพรียว แก้มตอบ ลูกครึ่ง ผิวขาว และจากการสังเกตผ่าน โปสเตอร์ภาพยนตร์พม่าบนเว็บไซต์โดยผู้เขียนค่อนข้างเห็น ด้วยกับนักวิจารณ์ท่านนี้ว่า ดาราสาวพม่านั้นเจ้าเนื้อกว่าดารา สาวไทย สำหรับนักแสดงชาย จากสายตาของผู้เขียนพบว่า วงการบันเทิงพม่าไม่เน้นหน้าตาโทนลูกครึ่งเหมือนบ้านเรา วิลลี่ที่ว่าสาวๆ บ้านเรากรี๊ดกร๊าด หากสมัครเข้าวงการบันเทิง พม่าในยุคนี้คาดว่าคงไม่ผ่านรอบคัดเลือก เพราะจากการ กวาดสายตาดูนิตยสารบันเทิงพม่าล่าสุดพบว่า ดาราหนุ่มที่ กำลังมาแรงมีหน้าตาเหมือนกับ สรพงษ์ ชาตรี บ้านเรา

ภาพยนตร์ส่วนใหญ่จะเป็นแนวความรักสามเส้า ชีวิตรันทด ดรามา แบบที่ไม่ต้องใช้เทคนิคในการถ่ายทำที่ ยุ่งยากซับซ้อนนัก ส่วนภาพยนตร์ประเภทอื่นเช่นแนว แอ๊คชั่น หรือ วิทยาศาสตร์ ฯลฯ นั้น เท่าที่พยายามหาจาก ตัวอย่างบนเว็บไซต์ยังไม่พบ อาจเป็นเพราะอุตสาหกรรม บันเทิงพม่ายังมีเงินทุนที่จำกัด เนื่องจากประเทศพม่าถูกต่อ ต้านการลงทุนจากต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศตะ วันตก การผลิตภาพยนตร์ที่ต้องใช้ต้นทุนสูงจึงเป็นไปได้ยาก

สำหรับผู้สนใจข่าวคราววงการ บันเทิงพม่าสามารถติดตามได้จาก อินเตอร์เนต ซึ่งมีเวบไซต์เกี่ยวกับ ภาพยนตร์ในประเทศพม่าอยู่มาก มาย ทั้งเวบไซต์ภาษาอังกฤษและ ภาษาพม่า ที่สร้างโดยชาวพม่าที่อยู่ ในพม่าและต่างประเทศ เวบไซต์ของ รัฐบาลเองและของเอกชน ซึ่งนับ ว่าเป็นสิ่งที่ดีสำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสดู หนังในประเทศพม่า เช่น คนประ เทศอื่นที่สนใจเรื่องภาพยนตร์พม่า และที่สำคัญคือคนพม่าที่อยู่ในต่าง แดน ที่น่าจะเป็นกลุ่มที่เข้าไปใช้ บริการในเวบไซต์มากกว่าคนที่อยู่ใน พม่า ซึ่งโอกาสที่เข้าถึงอินเตอร์เนต ค่อนข้างจำกัด.