นายพลโบ เมียะ : การเดินทางอันยาวไกลของบุรุษเหล็กแห่งกองทัพกะเหรี่ยง

นายพลโบ เมียะ เป็นนามของชายชาวกะเหรี่ยงวัย 76 ปี ผู้เคยดำรงตำแหน่งสูงสุดของสหชนชาติกระเหรี่ยง หรือ KNU (Karen National Union) ยาวนานเกือบ 25 ปี เป็นผู้นำซึ่งชาวกะเหรี่ยงทั้งให้ความ เคารพและหวาดกลัวมากที่สุดคนหนึ่ง ด้วยเพราะเขาเป็นคนมุ่งมั่น แน่วแน่ในอุดมการณ์ และเด็ดขาดทั้งในเชิง ความคิดและการกระทำ


นายพล โบ เมียะ เกิดในหมู่บ้านชาวกะเหรี่ยงที่เมืองพะบู รัฐกะเหรี่ยง เมื่อค.ศ. 1927 พ่อแม่มีอาชีพทำไร่ทำนาเช่นเดียวกับชาวกะเหรี่ยงทั่วไป ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง กองทัพกู้เอกราชของพม่า (Burmese Independence Army – BIA) ได้บุกเข้ามาที่หมู่บ้านของเขา และทำการฆ่า ข่มขืน เผาทำลายบ้านเรือนของชาวกะเหรี่ยงในหมู่บ้าน ทำให้เขาทนไม่ได้ ตัดสินใจ สมัครเป็นทหารเพื่อต่อต้านการรุกรานของทหารพม่าตั้งแต่อายุเพียง 17 ปี

เส้นทางชีวิตนายทหารของเขา เริ่มจากเป็นทหาร ธรรมดาในกองทัพผ่านสงคราม ผ่านการต่อสู้มากมายหลายครั้ง จนในที่สุดไต่เต้าขึ้นมาจน ได้เป็นผู้บัญชาการทหาร และผู้นำ สูงสุดทางการเมือง หรือประธานาธิบดีของสหชนชาติกะเหรี่ยง หรือ KNU 

เขาคำจัดความของการทำงานปฏิวัติว่า “หมายถึง การต่อต้านสิ่งที่ผิดและสร้างสิ่งที่ถูกต้องขึ้นมาใหม่ การต่อสู้ ของพวกเราคือการต่อสู้กับความเลวร้ายและสิ่งที่ผิดพลาด ผมกำลังต่อสู้กับคนที่ละเมิดกฎหมายและทำร้ายประชาชน ผมจำเป็นต้องลงโทษคนเหล่านี้”

นายพลโบ เมี้ยะ เคยทดสอบใจตัวเองและใจของศัตรู ด้วยการลองนำกำลังพล 150 คนเข้ามอบตัวกับรัฐบาล ทหารพม่า ในปี 1953 นายทหารพม่าได้หยิบยื่นผลประโยชน์ และความรับผิดชอบงานด้านทหารบางส่วนให้ เมื่อเขา เห็นว่า ฝ่ายทหารพม่าไม่ได้มีความจริงใจในการแก้ปัญหา ไม่กี่วันถัดมา เขาก็เดินทางกลับเข้าป่า จับปืนสู้รบ กับฝ่ายทหารพม่า เพื่อเรียกร้องสิทธิอันชอบธรรมในการ ปกครองแผ่นดินกะเหรี่ยงของตน

นายพลโบ เมียะได้พัฒนากองกำลังของตน ให้มีความเข้มแข็งมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่ง กองกำลัง KNU ได้รับการยอมรับว่าเป็นกองกำลังชนกลุ่มน้อยที่ มีความเข้มแข็งในการต่อสู้กับรัฐบาลทหารพม่ามากที่สุด ด้วยเหตุนี้ เขาจึงเป็นบุคคลที่ติดอยู่ในบัญชีดำที่รัฐบาล ทหารพม่าต้องการฆ่าทิ้งเป็นอันดับต้น ๆ ด้วยบุคลิก เด็ดขาด มั่นคง ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงอะไรง่าย ๆ ทำให้นายทหารกะเหรี่ยงบางกลุ่มไม่พอใจในตัวเขาถึงขนาด วางแผนลอบสังหาร กำจัด เขาให้หมดลมหายใจไปจากโลกนี้เลยที่เดียว

ความแตกแยกระหว่างนายพลโบ เมี้ยะ และกลุ่มนาย ทหารที่ไม่พอใจ ในตัวเขา ดำเนินมาถึงจุดระเบิด หลังจาก มาเนอร์ปลอว์ เมืองหลวง อันเปรียบเสมือนหัวใจของกองทัพกะเหรี่ยงถูกทหารพม่า บุกเข้าโจมตีย่อยยับ ในปี 1995 หลังจากนั้น นายทหารกะเหรี่ยง ซึ่งส่วนใหญ่นับถือพุทธ ได้แยกตัวออกมาตั้งกลุ่ม กะเหรี่ยงพุทธ หรือ DKBA ร่วมมือกับทหารพม่าโจมตี กองกำลังกะเหรี่ยง KNU ซึ่งผู้นำส่วนใหญ่นับถือคริสต์

หลังจากมาเนอร์ปลอว์แตกสลาย รอยร้าวเริ่มปรากฏ ชัดเจนมากขึ้น โดยนายพล โบ เมียะ ได้กล่าวโทษนาย ทหารระดับผู้นำที่มีอายุน้อยกว่า ว่าเป็นผู้เพาะเมล็ดพันธุ์ แห่งความแตกแยก ขณะที่ผู้สังเกตการและทหารกะเหรี่ยง บางกลุ่ม เชื่อว่า นายพลโบ เมียะ คือ บุคคลสำคัญที่ทำให้เกิด ความแตกแยกในกลุ่มกะเหรี่ยง

ในที่สุด นายพลโบ เมียะจึงต้องสละ เก้าอี้ประธาน ซึ่งครอบครองมานานกว่าสอง ทศวรรษให้กับ นาย ซอ บา ติน วัย 73 ปี เมื่อปี 2000 ส่วนนายพลโบ เมี้ยะได้ลดตำแหน่ง ลงมาเหลือเพียงรองประธาน แต่ยังคงมีบทบาทในการควบคุมงาน สำคัญของกองทัพเช่นเดิม

สำหรับข้อมูลด้านประวัติส่วนตัว นายพลโบ เมี้ยะ มีภรรยาชื่อ ลาโพ มีลูกด้วยกัน 7 คน ผู้ชาย 4 คน ผู้หญิง 3 คน 

นายพล โบ เมียะ เคยกล่าวถึง เหตุผลที่จับปืนรบมาเป็น เวลายาวนานว่า
“เราเป็นชนกลุ่มน้อยที่ต้องต่อสู้ เพื่อประเทศชาติของเรา การสู้รบกับ รัฐบาลทหารพม่าจะชนะหรือแพ้ก็ตาม นี่เป็น หน้าที่ที่จะต้องกระทำ ไม่ทำไม่ได้ ถ้าเราไม่ทำ นั่นหมายถึงว่าจะไม่มีกะเหรี่ยงอยู่บนโลกนี้อีกต่อไป” 

สาละวินโพสต์ ฉบับที่ 9 ( กรกฎาคม-สิงหาคม 2546)