Ceasefire กับ Surrender ต่างกันอย่างไร

การวางอาวุธ Surrender กับ การเจรจาหยุดยิง Ceasefire ต่างกันคือ การวางอาวุธหมายถึง การมอบอาวุธทั้งหมดให้รัฐบาลทหารพม่าโดยไม่มีเงื่อนไข หรือเรียกง่าย ๆ ว่า “ยอมแพ้”

ส่วนการเจรจาหยุดยิง หมายถึง ชนกลุ่มน้อยยังคงครอบครองอาวุธอยู่เช่นเดิม แต่จะไม่ทำการสู้รบกับกองทัพของรัฐบาล โดยสามารถถือปืนในบางพื้นที่ที่เจรจาหยุดยิง รวมทั้งดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้ ภายใต้ข้อตกลงกับรัฐบาล หรือเรียกง่ายๆ ว่า “การพักรบ”


ข้อตกลงในการเจรจาหยุดยิงจะเกิดขึ้นในลักษณะกลุ่มต่อกลุ่ม บางกลุ่มอาจมีโอกาสดำเนินผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจมากว่ากลุ่มอื่น ๆ อย่างเช่น กลุ่มว้าแดง UWSA (United Wa State Army) กลุ่มโกก้าง และกลุ่มกะเหรี่ยงพุทธ เป็นกลุ่มเจรจาหยุดยิงที่ได้ผลประโยชน์จากรัฐบาลมากกว่ากลุ่มอื่น ๆ เนื่องจากเป็นกลุ่มที่แสดงตัวเป็นมิตรหรือสวามิภักดิ์กับรัฐบาลทหารมากกว่ากลุ่มหยุดยิงอื่น ๆ การให้ผลประโยชน์กับกลุ่มหยุดยิงต่าง ๆ ไม่เท่ากัน ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกับชนกลุ่มน้อยที่เจรจาหยุดยิงไปแล้วไม่มั่นคง เพราะหากผลประโยชน์ลดลง กลุ่มที่เสียประโยชน์ก็พร้อมที่จะหันกระบอกปืนเข้าใส่กองกำลังกลุ่มใหญ่ซึ่งเคยยอมแพ้รัฐบาลทหารพม่า คือ กองทัพเมืองไตยของขุนส่าซึ่งวางอาวุธไปเมื่อต้นปี ๒๕๓๙

ปัจจุบัน กองกำลังชนกลุ่มน้อยส่วนใหญ่ประมาณ ๑๗ กลุ่มอยู่ระหว่างการหยุดยิงกับรัฐบาลทหารพม่า แต่ยังมีกองกำลังอย่างน้อย ๕ กลุ่มที่ยังคงสู้รบ ประกอบด้วย กลุ่มกะเหรี่ยง KNU ของนายพลโบ เมียะ กลุ่มไทยใหญ่SSA ของเจ้ายอดศึก กลุ่มชิน กลุ่มคะยาห์ และกลุ่มอาระกัน เหตุผลที่กองกำลังเหลานี้ไม่ยอมเจรจาหยุดยิงกับรัฐบาลทหารพม่า เนื่องจากการเจรจาหยุดยิงของกลุ่มต่าง ๆ ที่ผ่านมา ไม่ได้นำไปสู้การเปลี่ยนแปลงแก้ทางการเมือง ชนกลุ่มน้อยยังถูกรัฐบาลทหารพม่ากระทำการละเมิดสิทธิมนุษยชน และไม่มีสิทธิมรการปกครองตนเองอยู่เช่นเดิม