Dirty Pretty Things - ลบเหลี่ยมเลว


โดย หมอกเต่หว่า
ในโลกนี้คงไม่มีใครปรารถนาชีวิตที่ไร้สิทธิเสรีภาพและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ แต่หลายคนก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงชะตาชีวิตเหล่านี้ได้ พวกเขาจึงทำได้เพียงแค่เรียนรู้ที่จะอยู่กับมันและทำทุกวิถีทางเพื่อความอยู่รอด

ภาพยนตร์เรื่อง Dirty Pretty Things หรือ “ลบเหลี่ยมเลว” ได้ตีแผ่ชีวิตของแรงงานข้ามชาติและผู้ลี้ภัยข้ามชาติในอังกฤษเป็นอย่างดีเขียนบทภาพยนตร์โดย สตีฟ ไนท์ และได้ผู้กำกับฝีมือดีอย่างสตีเฟ่น เฟรีย จึงทำให้หนังเรื่องนี้สามารถคว้ารางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมผู้กำกับยอดเยี่ยม และนักแสดงชายยอดเยี่ยมจากเทศกาลภาพยนตร์มากมาย อาทิเช่น รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจาก British Independent Film Award ในปี 2546 และยังเคยถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ในสาขาบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมในปี 2547 รวมถึงการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลในเทศกาลภาพยนตร์อื่นๆ อีกหลายเทศกาล

ด้านนักแสดงนำนั้น ได้หนุ่มสัญชาติอังกฤษ ชิวีเทล จิโอฟอร์ และ ออเดรย์ โตตู นักแสดงสาวชาวฝรั่งเศสมารับบท ซึ่งออเดรย์เคยฝากผลงานมาแล้วหลายเรื่องอย่าง เอมิเลีย (Amelie) รหัสลับดาวินชี (The Da Vinci Code) และ โคโค่ ก่อนโลกเรียกเธอ ชาเนล (Coco Before Chanel) เนื้อเรื่องได้กล่าวถึง อ๊อกเวย์ (ชิวีเทล อีจิโอฟอร์) ศัลยแพทย์มือหนึ่งของไนจีเรียที่ถูกทางการใส่ร้ายว่า ฆาตกรรมภรรยาของตัวเองหลังปฏิเสธร่วมมือกับทางการในการทำลายหลักฐานการเสียชีวิตของเจ้าหน้าที่คนหนึ่ง เขาต้องจำใจทิ้งลูกสาววัย 7 ขวบไว้กับน้องสาว และหนีออกนอกประเทศมาเป็นแรงงานผิดกฎหมายในลอนดอน อ๊อกเวย์ไม่เคยเล่าเรื่องของตัวเองให้ใครฟัง แม้แต่เพื่อนสนิทของเขาหรือแม้แต่เชอเน่ย์ (ออเดรย์ โตตู) สาวชาวตุรกีผู้ไร้เดียงสาที่มีความฝันอยากจะไปอยู่นิวยอร์ก  อ๊อกเวย์และเชอเน่ย์ทำงานที่เดียวกันในโรงแรมบอลติก (Baltic) โดยเช่าอพาร์ทเม้นท์อยู่ด้วยกัน แต่ในฐานะที่เป็นเพื่อนร่วมห้องเท่านั้น โดยทั้งสองตั้งกฎว่าจะไม่อยู่อพาร์ทเม้นท์ในเวลาเดียวกัน อย่างไรก็ตามเป็นที่รู้ดีว่า ทั้งสองแอบมีใจให้กันเพียงแต่ไม่ได้เอ่ยปาก

อ๊อกเวย์ขับรถแท็กซี่ในตอนกลางวัน และทำหน้าที่เป็นพนักงานต้อนรับของโรงแรมบอลติกในตอนกลางคืน ขณะที่เชอเน่ย์ต้องลักลอบทำงานเป็นแม่บ้านที่โรงแรมเดียวกับที่อ๊อกเวย์ทำ ชีวิตของทั้งสองดูจะปกติสุข หากไม่ต้องเจอกับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองที่เปรียบเหมือนมัจจุราชสำหรับแรงงานผิดกฎหมาย 

แต่แล้ววันหนึ่งอ๊อกเวย์ก็พบเหตุการณ์สยองในโรงแรมแห่งนี้เมื่อเขาพบหัวใจของมนุษย์ในชักโครกของห้องพักห้องหนึ่ง นำไปสู่คำถามมากมายที่เขาไม่สามารถหาคำตอบได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ในอีกด้านหนึ่ง เชอเน่ย์ แม้จะถือพาสปอร์ตเข้าอังกฤษ แต่ทางการก็ไม่อนุญาตให้เธอทำงานได้ จึงต้องย้ายไปทำงานที่โรงงานเย็บผ้าแห่งหนึ่งหลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองตามล่า


ต่อมาอ๊อกเวย์ก็ค้นพบว่า ห้องหนึ่งของโรงแรมถูกใช้เป็นสถานที่ผ่าตัดไตจากการขายโดยเหล่าผู้เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และสนีลกี้ (เซอร์กี  โลเปซ) ผู้จัดการของโรงแรม แท้จริงแล้วเป็นคนค้าอวัยวะมนุษย์ที่แสวงหาแต่ผลประโยชน์ เขาได้ยื่นข้อเสนอโดยให้อ๊อกเวย์ขายไตข้างหนึ่งเพื่อแลกกับพาสปอร์ต

“นายขายไตให้ฉัน ฉันให้บัตรประชาชนนาย คนที่จะได้เปลี่ยนไตเขาก็แฮปปี้ ส่วนคนที่ขายไตก็ได้อยู่ในประเทศที่สวยงามนี้อย่างแฮปปี้” สนีลกี้ยื่นข้อเสนอให้กับอ๊อกเวย์ แต่เขาปฏิเสธ


เรื่องราววุ่นๆ ยังไม่จบเพียงแค่นั้น เมื่อสนีลกี้รู้ว่าอ๊อกเวย์เคยเป็นแพทย์มือหนึ่งของไนจีเรีย แผนตำรวจมาจับกุม แต่อ๊อกเวย์ก็ปฏิเสธอีกครั้งเพราะเห็นว่าเป็นสิ่งที่ชั่วที่ต้องการบีบให้อ๊อกเวย์มาร่วมมือกับเขาจึงเกิดขึ้น โดยขู่อ๊อกเวย์ว่า หากไม่ยอมร่วมมือจะแจ้งเจ้าหน้าที่ไม่ถูกต้องและผิดศีลธรรม จนท้ายสุดเขาทนแรงบีบคั้นไม่ไหว และตัดสินใจลาออกจากงานที่โรงแรม แต่ถึงกระนั้นอ๊อกเวย์กลับพบว่า แรงงานผิดกฎหมายเป็นจำนวนมากยอมขายไตเสี่ยงชีวิตแลกกับพาสปอร์ต เพื่อให้ได้อยู่ในอังกฤษต่อไป

“ได้ข่าวว่าไตที่ลอนดอนราคาข้างละหมื่น (ปอนด์) เพราะฉะนั้นหลายคนจึงเสี่ยง ถ้าฉันกล้าพอป่านนี้ฉันขายไปแล้ว จะได้ไปจากประเทศนี้ซะที” นี่คือคำพูดของเพื่อนคนหนึ่งของอ๊อกเวย์ และสิ่งที่น่าสลดใจมากไปกว่านั้นก็คือ บางรายติดเชื้ออย่างหนักหลังการผ่าตัด แต่ไม่กล้าไปโรงพยาบาล เพราะกลัวถูกเนรเทศเนื่องจากเข้าเมืองผิดกฎหมาย และหัวใจมนุษย์ที่ติดอยู่ในชักโครกก็เป็นของผู้ลี้ภัยคนหนึ่งที่ต้องสังเวยชีวิตจากการผ่าตัดที่ผิดพลาด ซึ่งอ๊อกเวย์ไม่คิดว่าสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นในกรุงลอนดอน เมืองที่ใครหลายๆ คนอยากไปสัมผัส แต่สำหรับแรงงานข้ามชาติกลับกลายเหมือนขุมนรก

เรื่องราวสลดหดหู่ที่บีบคั้นหัวใจของอ๊อกเวย์ ยังไม่จบเพียงแค่นั้น เมื่อเชอเน่ย์หญิงที่เขารัก ต้องยอมให้นายจ้างขืนใจเพื่อแลกกับการรอดพ้นจากถูกเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจับ  อ๊อกเวย์โทษตัวเองว่าเขาเป็นต้นเหตุของปัญหาให้กับเชอเน่ย์ เขาจึงพยายามตัดความสัมพันธ์กับเธอ เกิดการเข้าใจผิดและทำให้เชอเน่ย์น้อยใจ เธอตัดสินใจไปหาสนีลกี้เพื่อขายไตแลกกับพาสปอร์ตเพื่อไปนิวยอร์ก แต่เธอถูกสนีลกี้บังคับขืนใจโดยขู่ว่าจะไม่ให้พาสปอร์ตหากเธอไม่ยอมทำตาม เหตุการณ์นี้ทำให้หัวใจของอ๊อกเวย์แตกสลายที่ต้องเห็นคนรักถูกย่ำยี เขาตัดสินใจวางแผนที่จะแก้แค้นสกีลนี้ โดยบอกกับสกีลนี้ว่า เขาจะอาสาเป็นคนลงมือผ่าตัดเชอเน่ย์ด้วยตัวเองแลกกับพาสปอร์ต บทสรุปตอนท้ายเรื่อง ที่สุดแล้วสกีลนี้ผู้ชั่วร้ายถูกลอบวางยาสลบ และผ่าตัดเอาไตออกแทนเชอเน่ย์ ซึ่งไตหนึ่งข้างก็ยังไม่สาสมกับสิ่งที่สกีลนี้ได้เคยทำไว้กับแรงงานจำนวนมาก

ภายหลังเรื่องราวทั้งหมดอ๊อกเวย์บอกความจริงทุกๆ อย่างเกี่ยวกับอดีตของเขา และหลังได้รับพาสปอร์ต เชอเน่ย์ตัดสินเดินทางไปนิวยอร์กตามความฝันของตัวเอง แม้จะต้องจากชายคนรัก ซึ่งเธอหวังว่าสักวันหนึ่งเธอจะได้เจออ๊อกเวย์อีกครั้ง ด้านอ๊อกเวย์เดินทางกลับไปหาลูกสาวที่จากมานาน

“เราเป็นคนที่พวกคุณมองไม่เห็น แต่เราคอยขับรถให้คุณ คอยเก็บกวาดตามหลังให้คุณ” นี่คือคำพูดตอนหนึ่งในหนังที่สื่อถึงการมีชีวิตอยู่ของผู้ลี้ภัยหรือแรงงานผิดกฎหมายในลอนดอน ซึ่งเปรียบเหมือนพลเมืองชั้นล่างสุด

แม้จะเป็นเพียงภาพยนตร์ แต่เรื่องราวในหนังอาจกำลังเกิดขึ้นจริงที่ไหนสักแห่งของโลก ซึ่งบางแง่มุมช่างคล้ายคลึงกับสิ่งที่แรงงาน หรือผู้ลี้ภัยข้ามชาติจากพม่าต้องเผชิญในประเทศเพื่อนบ้าน
เพียงแต่เสียงเพรียกและเสียงร่ำไห้ของพวกเขา ถูกปกปิดไม่ให้เล็ดลอดออกมาให้โลกได้ยินเท่านั้นเอง.