ตึกใหญ่สถาปัตยกรรมทรงยุโรปผสมผสานกับจีน แปลกตาแต่สวยงามไปอีกแบบ มันคืออาคารสถาบันสอนศิลปะแห่งกรุงย่างกุ้ง เทียบเท่ากับวิทยาลัยช่างศิลปหรือวิทยาลัยเพาะช่างในสมัยอดีตของบ้านเรา
ภายในตึกมีร่องรอยอันโอ่อ่าสมกับเป็นสถานที่สอนศิลปะ แม้ปัจจุบันจะทรุดโทรมเพราะขาดการบำรุงรักษา ห้องเรียนของเขาทำให้ฉันนึกถึงห้องเรียนศิลปะในวิทยาลัยช่างศิลปะที่ฉันเคยเรียนเมื่อประมาณ 20 ปีก่อน ห้องเก่าๆ เต็มไปด้วยคราบสีและรอยดินสอขูดเขียน โต๊ะเรียนที่ดูราวกับว่าไม่เคยเปลี่ยนมาตั้งแต่สมัยอาจารย์ศิลปะ พีระศรียังมีชีวิตอยู่
จะว่าไปแล้ว แม้ประเทศชาติเราจะปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยเต็มใบบ้างครึ่งใบบ้าง และประชาชนดูเหมือนว่าจะมีสิทธิมีเสียงกว่าบ้านเขา ทว่า---ศิลปะก็ไม่ได้รับการดูแลมากมายไปกว่าประเทศพม่าเลย
แวดวงศิลปะศิลปินของพม่าหรือสหภาพเมียนมาร์ (ที่กำลังจะเปลี่ยนชื่อประเทศอีกครั้งหลังเลือกตั้ง) ดูเหมือนจะหยุดชะงักไปกว่า 40 ปี พร้อมๆ กับการปิดประเทศหลังรัฐบาลทหารครองอำนาจเบ็ดเสร็จ ปิดปากประชาชนไม่ให้หือไม่ให้อือ

แม้จะขัดสนไปเสียทุกสิ่งอย่าง รวมทั้งเสรีภาพในการแสดงออก ที่อย่าว่าแต่จะสะท้อนเรื่องการเมืองหรือเพียงแค่จะวาดภาพอองซาน ซูจีสักภาพเลย แค่เอ่ยชื่อเธอผู้นี้ได้ก็เพียงเสียงกระซิบ กระนั้นฉันก็ยังได้ พบกับศิลปินพม่าร่วมสมัยที่พยายามพัฒนาวงการศิลปะของเขาอย่างไม่ท้อถอย
อูอ่องมิน [Aung Myint] ศิลปินอาวุโสผู้มีชื่อเสียงและเป็นแบบอย่างแก่ศิลปินรุ่นใหม่ จัดเป็นศิลปินร่วมสมัยรุ่นบุกเบิกคนหนึ่งที่พยายามเปิดประตูให้ศิลปินพม่าได้ออกไปสูดอากาศแปลกใหม่ภายนอก เขาทำงานจิตรกรรม วาดเส้น ประติมากรรม รวมถึงศิลปะ แสดงสด [performance art] แม้อายุจะมากและร่างกายอ่อนล้าด้วยโรคภัยไข้เจ็บ เขาก็ยังรังสรรค์งานใหม่ๆ อย่างไม่เหน็ดหน่าย
เมื่อ10 ปีที่แล้ว เขากับศิลปินหนุ่มนาม Aye ko เคยมาร่วมงาน เทศกาลศิลปะแสดงสดเอเชียโทเปียที่กรุงเทพฯ เวลาผ่านไปนานปีกระทั่ง มาถึงทุกวันนี้ ศิลปินหนุ่มคนนั้นก้าวหน้าในเส้นทางศิลปะ เขาก่อตั้ง New zero art space จัดกิจกรรมศิลปะอย่างต่อเนื่อง ทั้งแสดงผลงาน ศิลปินพม่าและเชื้อเชิญศิลปินต่างชาติมาร่วมแสดงผลงานแลกเปลี่ยนกัน รวมถึงหาทุนจากองค์กรระหว่างประเทศเป็นค่าเดินทางให้ศิลปินพม่าได้มีโอกาสออกไปหาประสบการณ์ด้านศิลปะยังต่างประเทศอีกด้วย

ศิลปะที่น่าสนใจของพม่าใช่จะรวมศูนย์อยู่ในกรุงย่างกุ้ง เมืองหลวงเก่าเท่านั้น มัณฑะเลย์ เมืองสำคัญอีกแห่งหนึ่งของพม่าก็มีศิลปินมากฝีมืออยู่อาศัยไม่น้อยหน้าเมืองหลวงเก่า
เพื่อนศิลปินที่ย่างกุ้งแนะนำให้ไปพบ โชว โชว ออง [Cho Cho Aung] ศิลปินหญิงคนสำคัญของมัณฑะเลย์ที่ได้รับการยอมรับ เป็นศิลปิน ที่ค่อนข้างมีฐานะด้วยธุรกิจของครอบครัว เธอเปิดโรงเรียนสอนศิลปะ Pan Thu Sander Art Center ในตึกแถวของตัวเอง ตั้งอยู่ละแวกใกล้เคียง พระราชวังมัณฑะเลย์ สถานที่ท่องเที่ยวลือชื่อ
โชว โชว ออง ในวัยกว่าห้าสิบปี กระฉับกระเฉง ไฟศิลปะยังคุโชน มือที่จับดินสอดรออิ้งค์ให้ดูแบบร่างผลงานของเธอนั้นมั่นคง เส้นสาย แม่นยำมีพลัง
เธอไม่ได้ผ่านสถาบันด้านศิลปะใดๆ เธอเรียนศิลปะด้วยตนเอง จากพ่อ ศิลปินระดับแถวหน้าของพม่าผู้ล่วงลับไปนานปีแล้วนามว่า U Aung Khin มีชีวิตอยู่ระหว่างปี ค.ศ.1920 – 1966 เป็นศิลปินอาวุโสที่ ระบือนาม กระทั่งมีชาวต่างชาติที่ชมชอบผลงานได้จัดพิมพ์หนังสือรวมผลงานไว้เป็นอนุสรณ์
ผลงานของเขาอยู่ในสกุลอิมเพรสชั่นนิสต์ บอกเล่าเรื่องราววิถีชีวิตชนบท ทิวทัศน์ภูเขา แม่น้ำ ทุ่งนา หลายภาพบันทึกวิถีชีวิตทุกข์ยาก ภัยธรรมชาติและชีวิตผู้คนอพยพในช่วงสงคราม สีสันของศิลปินระบือนามรุ่นพ่อค่อนข้างจะออกไปในโทนสีเย็น แลดูสงบอบอุ่น ขณะเดียวกัน ในบางภาพก็เจือด้วยความหม่นเศร้าในแสงสีของความอบอุ่นสงบเย็น
โชว โชว ออง เป็นลูกไม้หล่นใต้ต้นที่มีแนวทางของตัวเองชัดเจน แม้เรื่องราวในภาพจะบันทึกภาพวิวทิวทัศน์และวิถีชีวิตผู้คนไม่ต่างจากผู้เป็นพ่อ ทว่าโชว โชว อองเธอสะบัดปลายภู่กันด้วยสีสันร้อนแรงเฉิดฉาย เต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก คล้ายกับจะระบายความอัดอั้นภาวะภายในจากยุคสมัยของเธอที่ไร้ทางออกในเสรีภาพ บางภาพตัดทอน เส้นสายคลี่คลายเป็นงานสมัยใหม่ ไม่ยึดติดกับขนบเดิม ผลงานของเธอ น่าจะจัดอยู่ในสกุล Post Impressionism
นอกจากจะทำงานจิตรกรรมวาดเส้น เมื่อไม่กี่ปีมานี้ที่งานศิลปะ แสดงสดเริ่มเข้ามาแพร่หลายในแวดวงศิลปะพม่า โชว โชว ออง ยังได้ทดลองทำงานศิลปะแสดงสด นำเสนอเรื่องราวการเปลี่ยนทางวัฒนธรรมของบ้านเมืองเธอ ฉันนึกถึงวงการศิลปะบ้านเราโดยเฉพาะศิลปินรุ่นใหญ่ พวกเขามักเย่อหยิ่งกับแนวทางศิลปะของตัวเอง ไม่เคยคิด จะก้าวพ้นไปจากกรอบที่นำความสำเร็จมาให้ บางทีอาจมองงานศิลปะแสดงสดหรือเพอร์ฟอร์แมนซ์นี้อย่างไม่เห็นคุณค่าด้วยซ้ำ
ด้วยความที่เป็นศิลปินมากฝีมือ เป็นที่ยอมรับอย่างไร้เงื่อนไข ทั้งยังทำงานต่อเนื่องและมีสถานที่สอนศิลปะของตนเอง โชว โชว ออง จึงเป็นศูนย์รวมของศิลปินหญิงมัณฑะเลย์ที่นัดพบพูดคุยกันเนืองนิตย์ วิพากษ์วิจารณ์ผลงานกันและกัน ทั้งร่วมกันจัดแสดงงานศิลปะตามวาระโอกาสที่พร้อม
ศิลปะศิลปินพม่าที่ฉันได้ไปสัมผัสอาจจะไม่ทั่วถ้วน เพราะยังมีศิลปินกลุ่มอื่นแง่มุมอื่นอีกมากที่สร้างสรรค์ผลงานของเขาอยู่ตามมุมต่างๆ ในดินแดนอันอวลด้วยมนต์ขลังแห่งนี้ แต่เท่าที่ได้พบได้เห็น ฉันก็ รู้สึกชื่นชมคนทำงานศิลปะที่ไม่ยอมจำนน ไม่ยอมปิดขังตัวเองไปตามสภาพบ้านเมืองที่คล้ายคอกขังประชาชน แม้ว่าพวกเขาอาจจะไม่สามารถ ใช้งานศิลปะเพื่อแสดงออกทางการเมืองหรือสะท้อนสังคมได้เต็มที่ กระนั้น พวกเขาก็ได้สืบทอดและพัฒนาศิลปะอันประดุจจิตวิญญาณแห่งยุคสมัยมาอย่างต่อเนื่องและยังคงโลดแล่นไปอีก ยาวไกล
ในขณะที่อำนาจเผด็จการที่ครอบงำพวกเขามาอย่างยาวนานต้องมีวันโรยราหมดอายุขัย.