Generation Wave คลื่นลูกใหม่จะโถมซัดเผด็จการ


โดย โม๋หอม

กระดาษสีขาวขนาดเอสี่แผ่นแล้วแผ่นเล่า ซึ่งภายในปรากฏข้อความประกาศจับนักโทษชายคนหนึ่ง ถูกนำ ไปติดทั่วเมืองย่างกุ้ง มันคงติดอยู่ที่เดิมอย่างนั้นนานนับเดือน หากคนร้ายที่ถูกตามล่าเป็นเพียงชายธรรมดาๆ คนหนึ่ง แต่ทว่า บุคคลที่อยู่ในประกาศคือ นายพลตานฉ่วย ผู้นำรัฐบาลเผด็จการพม่า แถมใต้รูปยังระบุความผิด ฐานนำพาประเทศล่มจม ประกาศดังกล่าวจึงมีอายุเพียงไม่กี่วัน ก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่รื้อทิ้งและทำการสอบสวนหาผู้ลงมือ มาเข้าคุก ... แล้วใครกันหนอ ที่ช่างกล้าท้าทายคุกตารางได้ถึงเพียงนี้
ภาพมือชูนิ้วโป้งแห่งความดีและชัยชนะ สัญลักษณ์ของกลุ่ม  “Generation Wave” ที่อยู่เหนือรูปนายพลตานฉ่วยบนหัวกระดาษนี่เอง คือคำตอบ

“Generation Wave” เป็นกลุ่มเยาวชนที่เพิ่งก่อตั้งได้เพียง 3 ปี หลังเหตุการณ์พระสงฆ์ประท้วงครั้งใหญ่ในปี 2007 ที่ผ่านมา จากการ ริเริ่มของ 4 ผู้นำ ซึ่งได้แก่ เซยาตอว์  อ่องเซโพ  โมทวย และ มินยานหน่าย ครึ่งหนึ่งเป็นนักศึกษาที่เข้าร่วมการประท้วงเมื่อปี 1988 ส่วนที่เหลือ เป็นนักดนตรี พวกเขามีจุดมุ่งหมายเพื่อต่อต้านรัฐบาลพม่าและทวงคืนความสงบสุขให้กลับคืนมาในประเทศอีกครั้ง  โดยใช้แนวทางสันติวิธีและ สร้างสรรค์ ทั้ง 4 คนต่างเห็นพ้องต้องกันว่า เยาวชนนี่แหละที่จะเป็นผู้กำหนดอนาคตและเป็นความหวังของชาติ เหมือนคำกล่าวที่ว่า “The Child is the Father of Man” (เด็กในวันนี้คือผู้ใหญ่ในวันหน้า) พวกเขาจึงพุ่งเป้าไปยังกลุ่มเยาวชนโดยเฉพาะ

ปัจจุบัน Generation Wave มีสมาชิกทั้งหมดประมาณ 70 คน กระจายอยู่ทั่วประเทศ ซึ่งป้ายประกาศจับนายพลตานฉ่วยที่กล่าวมาข้างต้นก็คือฝีมือของสมาชิกเหล่านี้นั่นเอง เรามีโอกาสได้พบกับสมาชิกบางส่วนที่อาศัยอยู่ในเซฟเฮ้าส์นอกประเทศ เมื่อปลายเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา

บ้านสองชั้นครึ่งไม้ครึ่งปูนในซอยเล็กๆ หลังหนึ่ง หากดูจาก ภายนอกแล้ว ไม่ได้แตกต่างจากบ้านหลังอื่นๆ ในย่านนี้ซักเท่าไหร่นัก แต่นี่ไม่ใช่บ้านธรรมดาๆ เพราะมันคือเซฟเฮาส์ หรือบ้านพักของสมาชิก Generation Wave บางส่วนที่ถูกเจ้าหน้าที่พม่าติดตามตัว

ทูพี หนึ่งในสมาชิก Generation Wave พาเราเข้าไปในห้องเล็กๆ ที่มีคอมพิวเตอร์ตั้งอยู่เหมือนเป็นสำนักงานขนาดย่อม แนะนำผู้มาเยือน ให้รู้จักกับสมาชิกคนอื่นๆ อีก 7 คนที่รวมตัวกันอยู่ในห้องนี้ เขาเล่าว่า กิจกรรมของ Generation Wave ในพม่าส่วนใหญ่ค่อนข้างเสี่ยงต่อการ
ถูกจับ อย่างเช่น การแจกใบปลิว การพ่นสเปรย์ข้อความต่อต้านในที่ สาธารณะ หรือ ติดป้ายประกาศที่รัฐบาลห้าม จึงต้องมีบ้านหลังนี้ไว้รองรับ ยามฉุกเฉิน “เมื่อเรารู้ตัวว่าถูกเจ้าหน้าที่ติดตาม ก็จะมาอยู่ที่นี่”

แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่โชคดี...ทูพีหยิบกระดาษขนาดเอสี่ 2 แผ่น ยื่นให้เรา เป็นรายชื่อสมาชิกทั้ง 21 คนที่ถูกจับกุมอยู่ในขณะนี้ โดยใน จำนวนนั้นคือ เซยาตอว์  และ อ่องเซโพ ผู้ก่อตั้ง Generation Wave

เนื่องจากเป็นงานที่เสี่ยง การรับสมาชิกเพิ่มจึงต้องผ่านขั้นตอนต่างๆ เพื่อให้แน่ใจว่าสมาชิกใหม่ไม่ใช่สายลับของรัฐบาลพม่า คนที่จะสมัครสมาชิกได้ต้องเป็นคนที่สมาชิกคนใดคนหนึ่งรู้จักและสามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นใครมาจากไหน ต้องมีอายุระหว่าง 18 ถึง 35 ปี และที่สำคัญ ต้องเป็นคนที่อยู่ในประเทศพม่า เพราะกิจกรรมส่วนใหญ่จะอยู่ในพม่า หลังจากนั้นต้องมาช่วยงานต่างๆ เหมือนเป็นการฝึกงาน ระยะหนึ่ง ก่อนที่หัวหน้ากลุ่มจะตัดสินใจรับหรือจำเป็นต้องปฏิเสธไป

ส่วนสมาชิกเก่า เมื่ออายุเลย 35 ปีแล้วก็จะเข้าไปอยู่ในส่วน ที่ปรึกษา เพื่อเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้คิดและสร้างสรรค์กิจกรรมได้อย่างเสรีโดยปราศจากการครอบงำทางความคิดจากผู้ใหญ่ จึงไม่ต้อง สงสัยว่า นอกจากการออกแลงการณ์ที่มีขึ้นตามโอกาสแล้ว กิจกรรม หลายอย่างของ Generation Wave จึงค่อนข้างแปลกและแหวกแนวและได้รับความสนใจจากนักข่าว หรือที่เรียกว่า “เป็นข่าว”

ยกตัวอย่างเช่น มีช่วงหนึ่งที่รัฐบาลพม่าบังคับให้ประชาชนหันมาใช้ก๊าซ CNG แทนน้ำมันเชื้อเพลิง โดยให้ติดสติ๊กเกอร์คำว่า CNG ไว้ที่รถยนต์ ซึ่ง Generation Wave ก็ใช้โอกาสนี้ “เกาะกระแส”  โดยการ แจกใบปลิว แปลความหมายของคำว่า “CNG” เสียใหม่ จากเดิมคือ “Compressed Natural Gas” (ก๊าซธรรมชาติอัด) ไปเป็น “Change New Government” (เปลี่ยนรัฐบาลใหม่) ตั้งแต่นั้นมา เมื่อคนเห็น สติ๊กเกอร์ข้อความ CNG (ที่รัฐบาลแจกเองกับมือ) ก็จะนึกถึงการเปลี่ยน รัฐบาลใหม่ไปโดยอัตโนมัติ และยิ่งรัฐบาลแจกสติ๊กเกอร์มากเท่าไหร่ ก็ยิ่ง เป็นการประชาสัมพันธ์โครงการให้ Generation Wave มากขึ้นเท่านั้น

ส่วนในช่วงที่มีการลงคะแนนร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ก็มีการพ่น สเปรย์เครื่องหมายกากบาท X เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนต่อต้านรัฐธรรมนูญที่ไม่มีความชอบธรรม หรือ ในวันครบรอบเหตุการณ์นองเลือดของนักศึกษาในการเดินขบวนเมื่อเดือน 8 ปี 1988 (สิงหาคม 2531) ก็จะตระ- เวนไปพ่นสเปรย์สีแดงเหมือนคราบเลือดตามสถานที่ต่างๆ เพื่อให้คนรำลึกถึงสิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้น และกิจกรรมล่าสุดในวันครบรอบวันเกิดของนายพลอองซาน ฮีโร่ของประชาชนที่กู้อิสรภาพคืนจากการตกเป็น อาณานิคมของอังกฤษ พวกเขาได้ประทับตรารูปนายพลอองซาน ลงบน ธนบัตรฉบับละหนึ่งพันจั๊ต (ซึ่งปัจจุบัน รัฐบาลพม่าได้ยกเลิกธนบัตรที่มีรูปนายพลอองซานไปแล้ว) โดยสอดไส้ธนบัตรที่มีตราประทับไว้ในธนบัตรปึกใหญ่และนำไปแลกตามร้านค้าต่างๆ

นับตั้งแต่เดือนแรกที่ Generation Wave ถือกำเนิด พวกเขาก็มีกิจกรรมอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดแทบทุกเดือน ซึ่งกิจกรรมส่วนใหญ่จะเน้นไปในการรณรงค์ให้สังคมตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้นโดยใช้สัญลักษณ์เป็นสื่อ

แต่กว่าที่จะได้ไอเดียเด็ดๆ แต่ละครั้งก็ไม่ใช่เรื่องง่าย  อดีตสมาชิก Generation Wave คนหนึ่ง ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษา เล่าว่า สมาชิกทั้งหมด จะถูกแบ่งออกเป็นกลุ่มย่อยๆ พวกเขาระดมความคิดกันในกลุ่ม ซึ่งหัวหน้ากลุ่มก็จะส่งต่อไอเดียของกลุ่มไปยังผู้บริหารส่วนกลาง จากนั้นก็ จะตัดสินว่า สิ่งที่แต่ละกลุ่มเสนอมา อันไหนเข้าท่าที่สุด เมื่อได้ข้อสรุปแล้ว ก็จะมีการวางแผนและสั่งการให้หัวหน้ากลุ่มย่อยนำไปปฏิบัติพร้อมกันทั่วประเทศ

นอกเหนือจากกิจกรรมการรณรงค์ต่างๆ ที่ว่ามาแล้ว พวกเขายัง แต่งเพลงออกอัลบั้มมาแล้วชุดหนึ่ง เพื่อสื่อไปถึงคนรุ่นใหม่และกระตุ้นให้พวกเขาหันมาสนใจสถานการณ์บ้านเมือง โดยในอัลบั้มประกอบด้วย เพลงทั้งหมด 7 เพลงที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับ การเมือง นางอองซานซู จี และ เพลงที่มีเนื้อหากระตุ้นให้คนลุกขึ้นสู้กับอำนาจเผด็จการ โดยแนวเพลง มีทั้งป๊อบสบายๆ ร็อกหนักหน่วง ไปจนถึงฮิปฮอปเท่ๆ

“เราเอาแผ่นซีดีที่ไม่มีหน้าปกไปแจกให้คนตามคอนเสิร์ตใหญ่ๆ ที่คนเยอะๆ โดยบอกว่าเป็นเพลงของนักร้องใหม่ เหมือนการโปรโมทนักร้องใหม่ที่เขาทำกันอยู่ทั่วไป จึงไม่มีใครสงสัย” ทูพีพูดถึงวิธีการเผยแพร่อัลบั้มของ Generation Wave ที่ทำได้อย่างแนบเนียน ก่อนที่จะโชว์มิวสิควิดีโอเพลงใหม่ที่เพิ่งตัดต่อเสร็จ ซึ่งเป็นเพลงที่บอกเล่า ความเป็นมาของ Generation Wave ในสไตล์ฮิปฮอปที่พวกเขาถนัด ซึ่งจะบรรจุในอัลบั้มใหม่ที่กำลังอยู่ในระหว่างดำเนินการ 

ทูพีและเพื่อนหยิบกีตาร์ขึ้นมาบรรเลงเพลงสองสามเพลงที่อยู่ในอัลบั้มแข่งกับเสียงเม็ดฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างไม่มีทีท่าว่าจะอ่อนแรงลง มีเพลงหนึ่งชื่อเพลงว่า “ตะแส่” เป็นภาษาพม่า แปลว่า “สิบ” เนื้อเพลงพูดถึงชายคนหนึ่ง เขาเกิดวันที่ 10 เดือน 10 เคยสอบ 10 ครั้ง สอบตกทั้ง 10 ครั้ง เรียนไม่จบออกไปขับ 10 ล้อ รถก็มาดันคว่ำถึง 10 ครั้ง พอมีแฟนก็แก่กว่าเขาถึง 10 ปี แถมชีวิตแต่งงานก็สั้นแค่ 10 เดือน  เรียกว่า เลข 10 เป็นเลขอัปมงคลของเขาเลยก็ว่าได้ นอกจากนี้ ในตอน ท้ายเพลงยังบอกว่า ในปี 2010 (สองพันสิบ) ยังมีเรื่องร้ายอีกเรื่องหนึ่งกำลังจะเกิดขึ้นจากฝีมือของรัฐบาลพม่า นั่นก็คือการเลือกตั้งครั้งแรกที่กำลังจะเกิดขึ้นในรอบยี่สิบกว่าปีตามแผนการที่รัฐบาลวางไว้ และคนที่จะต้องเจอกับเรื่องร้ายๆ คงไม่ใช่เขาคนเดียวแล้วล่ะ

เมื่อถามถึงการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายนที่งวดเข้ามาทุกที พวกเขาต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่เชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น เพราะทุกอย่างถูกจัดวางไว้แล้ว โดยรัฐบาลเผด็จการชุดเดิม



แต่ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร เมื่อไหร่ก็ตาม ที่อำนาจเผด็จการยังมีลมหายใจ ประชาชนยังทุกข์ยาก คลื่นลูกใหม่ ที่ชื่อ Generation Wave ก็จะไม่มีวันจางหาย การต่อสู้และปลุกพลัง ในตัวคนรุ่นใหม่ให้ลุกขึ้นมาทำสิ่งที่ถูกต้องก็ยังไม่จบลงเช่นกัน.