โดย อังกูร ตะวันวง
 |
ข้าวส้ม |
บนถนนนิมมานเหมินทร์ซอย 13 ใจกลางย่านเศรษฐกิจเชียงใหม่ ฝั่งตรงข้าม ในบริเวณตึกแถวเก่า หากสังเกตดีๆ จะเจอห้องแถวหนึ่งคูหา มีป้าย “Burmese Restaurant” อยู่ด้านหน้า ร้านนี้ใครที่อยากลองชิมเมนูแบบ “โกอินเตอร์” ขอเชิญเดินเข้าไปจับจองที่นั่งแล้ว หยิบเมนูมาสั่งอาหารกันได้เลย รับรองบรรยากาศร้านนี้ “โกอินเตอร์” จริงๆ ทั้งรสชาติสไตล์ไทใหญ่ และพม่าแท้ แถมด้วยภาษาพูดคุยภายในร้านที่มีทั้งภาษาไทใหญ่ และภาษาพม่าจากกลุ่มลูกค้า ชาวไทใหญ่ ชาวพม่า และชาวตะวันตก
เมื่อเข้าไปในร้านก็จะเจอกับ “พี่แสง” เจ้าของร้านชาวไทใหญ่พร้อมลูกมือ 3-4 คน กำลังวุ่นวายอยู่กับการเตรียมอาหารบริการลูกค้า พี่แสงเล่าว่าร้านนี้เปิดมาได้ 4 ปีกว่าแล้ว เริ่มต้น จากเหตุบังเอิญที่ได้อาสาทำกับข้าวให้ลูกค้าชาวพม่ากิน เพราะไม่ถูกปากอาหารไทย พอได้ชิม ฝีมือพี่แสงก็ติดใจ แม่ครัวเอกคนนี้จึงปิ๊งไอเดียเปิดร้านอาหารพม่าจริงจังขึ้นมา
 |
ยำใบชา |
สำหรับเมนูอาหารพม่าในวันนี้รับรองว่าต้องระดับตัวชูโรงทุกเมนู เพราะพี่แสงถูกรีเควส (เรียกร้อง) ว่าขอเมนูที่โดดเด่นสุดๆ แปลกสุดๆ หากินที่ไหนแทบไม่มีอีกแล้วในปฐพี (ยกเว้น ในพม่า) และแล้วพี่แสงก็สนองความอยากออกมาแบบเต็มๆ เปิดตัวด้วยออเดิร์ฟ “ยำใบชา” เมนูนี้ขึ้นชื่อว่าหอมถั่ว และใบชาหมัก(ใบหม่อน) ที่ทำเอาผู้ชิมน้ำลายสอตั้งแต่ยังไม่ทันเสิร์ฟ พอเอาเข้าปากแล้ว ไม่ผิดหวังจริงๆ กลิ่นฉุนนิดๆ ของใบชาหมัก ตามด้วยรสเปรี้ยวของกลิ่น มะเขือเทศหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ เคี้ยวสักพักรสมันของถั่วจะกรุบกรอบตลบอบอวลไปทั่วปาก หาก ใครชอบถั่วจานนี้ “รับประกัน” ถือว่าเอาเป็นเครื่องเคียงกับแกล้มได้ชะงัดนัก ส่วนผักกาดแก้ว และแตงกวาที่เสิร์ฟมาคู่กันก็ลดกลิ่นฉุนของใบชาได้ดีเยี่ยม
เสร็จจานนี้เราก็เข้าสู่เมนูจานหลักอย่าง “เนื้อหมูอุบ” ที่มีหน้าตาคล้ายคลึงแกงฮังเล ของภาคเหนือ แต่รสชาติที่เน้นสำหรับชาวต่างชาติจึงทำให้แตกต่างกับแกงฮังเลของบ้านเรา เรียกว่าเนื้อหมูคัดสรรที่นำมาเป็นชิ้นใหญ่เคี้ยวสะใจ เมื่อเอาเข้าปากรสชาตินำคือความชุ่มฉ่ำ ของความมันในเนื้อหมู ใครชอบความมันจานนี้จัดไปเต็มๆ น้ำราดขลุกขลิกรสเค็มกลมกล่อม ช่วยทำให้เนื้อหมูไม่แห้งจนเกินไป ชุ่มฉ่ำพอดีๆ ทานพร้อม “ข้าวส้ม” (ชานทะมินฉิ่น) ร้อนๆ เมนูเด็ดอาหารไทใหญ่ โอ่ย... อร่อยเหาะไปถึงอวกาศ เพราะรสของข้าวที่นำมาคลุกเคล้ากับ มะเขือเทศสีแดงสด ถูกนำมาอัดแน่นเป็นก้อนเสต็กขนาดย่อมๆ ช่วยผสมผสานรสเปรี้ยวของ ข้าวกับเนื้อหมูอุบอย่ างลงตั๊วลงตัว ข้าวส้มยังเสิร์ฟพร้อมกับเต้าหู้แผ่ นทอดกรอบ ขบเคี้ยว ดังกรอบแกร่บ สัมผัสลิ้นและฟันได้ถึงใจจริงๆ และหากใครชื่นชอบความเผ็ด ข้าวส้มนี้ก็มีพริกแห้ง กระเทียมเจียวทอดโรยหน้ามาเป็นตัวเลือกให้ลูกค้าได้เพิ่มสีสันการรับประทานได้อย่างครบรส
สุดท้ายพี่ แสงเผยเคล็ดลับของเมนู ออเดิร์ฟ “ยำใบชา” ว่าต้องลำบากลำบนไป นำเข้ามาจากประเทศพม่า เพราะเป็นใบชาหมัก ที่ได้คุณภาพ หาได้ยากในประเทศไทย ส่วนเมนู “ข้าวส้ม” ก็ยังมีแบบพิเศษที่ใช้ปลานิล หรือ ปลาช่ อนที่ แกะก้างแล้วนำไปคลุกกับข้าว เรียกว่าเพิ่มความสุดยอดมากขึ้นไปอีกระดับ เสียดายที่ครั้งนี้ไม่มีโอกาสได้ลิ้มลอง เพราะ เมนูนี้เรียกได้ว่า “น่าโดน” มากๆ ครั้งหน้า ขอประกาศแถลงการณ์ไว้ ณ ที่ นี้เลยว่ า ไม่พลาดแน่
 |
เนื้อหมูอุบ |
ส่ วนใครที่ สนใจร้านนี้ต้องขอแนะนำ เลยว่ าไม่ ควรพลาด เพราะนอกจากอาหาร นุ่ มลิ้นแล้ว ราคายังสบายกระเป๋าอย่ างมาก อาหารที่เสิร์ฟในร้านก็ไม่ได้มีเพียงอาหารพม่า เท่านั้น อาหารตามสั่งแบบเมนูไทยๆ ทั่วไปก็มี ส่ วนฝีไม้ลายมือการทำอาหารก็จัดว่ ารสเด็ด ทุกเมนูเพราะแม่ ครัวละเมียดละไมทำอย่ าง ตั้งใจทุกจาน ต้องอดใจรอสักหน่อยโดยเฉพาะ ช่ วงมื้อกลางวันและมื้อเย็นกรณีเร่ งด่ วน สามารถสั่งเมนู “Fast food” แบบข้าวราดแกง ที่ทางร้านเตรียมไว้ก่อนก็ได้แล้ว แม้จะไม่ร้อน กรุ่ นจากเตาแต่ รสชาติก็ผ่ านมาตรฐานเชล ชวนชิมพม่าแน่นอน ร้านเปิด 9.00 – 21.00 น. คำเตือน!! ร้านนี้จะปิดประมาณ 4 วัน ในแต่ละ เดือน โดยไม่มีวันกำหนดแน่นอน หากใครไปเจอ ร้านปิดเข้าพอดีก็คงต้องถือว่ าไม่ มีลาภปาก เอาซะเลย จะกินอาหารให้อร่อยทั้งทีต้องมีลุ้น