ไขความลับ “ตะนาคา” ความงามสองพันปี

โดย หมอกเต่หว่า

“ทำไมสาวพม่าต้องทาแป้งตะนาคา?”นี่คือคำถามที่คนภายนอกส่วนใหญ่อยากรู้แต่ไม่เฉพาะสาวๆ เท่านั้นที่หลงรักแป้งสีเหลืองนวลนี้ เพราะบรรดาลูกเด็กเล็กแดงไปจนถึงคุณยาย หรือแม้แต่หนุ่มๆ ในพม่าต่างก็ชอบทาแป้งตะนาคากันทั้งนั้น และที่คนพม่ามีผิวนวลเนียนจนหลายคนอิจฉานั้น ไม่ ใช่ เพราะใช้เครื่องสำอางแพงๆ ยี่ห้อดังๆ แต่เป็นเพราะใช้แป้งตะนาคาต่างหาก ว่ากันว่า คนพม่านั้นรู้จักนำไม้ตะนาคามาเป็นเครื่องประทินโฉมกันตั้งแต่สมัยสองพันปีโน้น และยิ่งกาลเวลาผ่านไป ตะนาคาก็ได้พิสูจน์ให้คนรุ่ นใหม่ เห็นว่ ามันคือ “เพชรน้ำเอก” แห่งวงการเครื่องสำอางของคนพม่าที่ได้กลายเป็นเอกลักษณ์ของชาวพม่าในทุกวันนี้


ไม้ตะนาคามีชื่อทางพฤกษศาสตร์ว่า Limonia Acidissima Linnเป็นไม้ยืนต้นที่ อยู่ ในสกุลเดียวกับกับต้นพญายา ไม้ตะนาคามีอยู่ ในประเทศศรีลังกาทางตอนใต้และทางภาคตะวันตกของประเทศอินเดียและทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของภูเขาหิมาลัย ส่วนในพม่านั้น ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่ทางภาคกลางของประเทศ โดยเฉพาะในเขตพื้นที่แห้งแล้งนอกจากนี้ยังพบทางภาคใต้ของรัฐฉาน

ไม้ตะนาคาจะมีลักษณะลำต้นตั้งตรง สูงประมาณ 10 เมตร มีกิ่งตั้งฉากกับลำต้น และมีหนามยาวเล็กคล้ายกิ่งสั้นๆ มีดอกเป็นช่อสีขาวและมีผลสีเหลือง สามารถขยายพันธุ์ได้โดยการขยายเมล็ด โดยลักษณะเด่ นของต้นตะนาคาก็คือ เปลือกและเนื้อไม้จะมีสีเหลืองและมีกลิ่ นหอมเย็น โดยเปลือกยังช่วยป้องกันแมลงไม่ให้กัดกินลำต้น ไม้ตะนาคาเป็นไม้ที่เติบโตช้า โดยต้องใช้เวลานานถึง 35 ปี กว่าจะให้แป้งตะนาคาที่ มีคุณภาพได้ ว่ ากันว่ า ยิ่ งเปลือกไม้ตะนาคาหนาเท่ าไหร่ ก็มียิ่ งมีคุณภาพและมีกลิ่นหอมมากเท่านั้น

กิ่งและลำต้นตะนาคาที่โตเต็มที่แล้วจะถูกตัดเป็นท่อนๆ จากนั้นจะมีการนำท่อนไม้ตะนาคาไปต้มให้เดือด แล้วนำมาตากให้แห้ง โดยชาวพม่าเชื่อว่า จะทำให้ไม้ตะนาคามีกลิ่นหอมมากยิ่งขึ้น เมื่อได้ท่อนไม้ตะนาคามาแล้วก็จะนำส่ วนตรงที่ เป็นเปลือกไม้มาฝนกับแท่ นหินที่เรียกในภาษาพม่าว่า “เจ้าก์ผิ่น” โดยระหว่างที่ฝนตะนาคาให้เจือกับน้ำเล็กน้อย เพื่อที่จะได้แป้งเหลวตะนาคา จากนั้นจึงนำมาทาบนใบหน้าและส่วนอื่นๆ ของร่างกายตามที่ต้องการ โดยรากของตะนาคาก็สามารถนำมาฝนทาบำรุงผิวได้ด้วยเช่นกัน

ไม้ตะนาคาที่ ว่ าดีที่ สุดในพม่ านั้น คือไม้ตะนาคาฉ่ วยโบ่ จากภาคสะกาย และไม้ตะนาคาชินมะด่องจากภาคมะกวย และไม้ตะนาคาจากริมฝั่ งแม่ น้ำอิรวดี ในปัจจุบัน ยังมีการนำรากและลำต้นของไม้ตะนาคามาบดให้ละเอียดเพื่อทำเป็นแป้งตะนาคาสำเร็จรูป มีทั้งแบบที่ใส่กระปุกสวยงามและแบบเป็นก้อน วิธีใช้ก็คือนำก้อนแป้งตะนาคามาผสมกับน้ำเล็กน้อยจนเป็นผสมเป็นเนื้อเดียวกัน และนำไปทาตามส่วนที่ต้องการ ซึ่งแป้งตะนาคาสำเร็จรูปนี้ลดความยุ่งยากซับซ้อนให้กับผู้ใช้ได้ดีทีเดียว นอกจากนี้ ยังมีการนำเปลือกไม้ตะนาคามาผสมกับครีมทาหน้า โลชั่น บำรุงผิว ผงขัดหน้าและผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางชนิดอื่นๆเป็นจำนวนมาก ซึ่งสามารถพบเห็นได้ในท้องตลาดทั่วไป

สรรพคุณด้านความงามของไม้ตะนาคานั้น ชาวพม่ าเชื่ อว่ าเปลือกไม้ตะนาคาช่ วยทำให้ผิวเนียนนุ่ มและกันแดดได้อย่ างดีนอกจากนี้ ยังช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ลดผดผื่นคัน รักษาสิว และทำให้ผิวขาวเนียนได้อีกด้วย รวมทั้งยังทำให้ผิวเย็นสดชื่ นเหมาะกับสภาพอากาศร้อนอบอ้าว ส่วนในด้านสรรพคุณทางสมุนไพรนั้น ผลแห้งของไม้ตะนาคาสามารถแก้โรคลมบ้าหมู แก้ไข้ แก้พิษ ท้องอืด ท้องเฟ้อ และบำรุงร่างกาย ส่วนรากช่วยขับเหงื่อได้ดี

ที่ นี้คงหายสงสัยกันแล้ว ว่ าทำไมคนในพม่ าถึงชอบทาแป้งตะนาคา เพราะไม้ตะนาคานอกจากจะเป็นสมุนไพรที่ไม่มีพิษมีภัย ไม่เจือเคมีแล้วยังทำให้ผิวสาวพม่าสวยแบบธรรมชาติแท้ๆ อีกด้วย.